บทความที่นำเสนอโดย รัศมี ชูทรงเดช จากภาควิชาโบราณคดี คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการคือ การประเมินสถานภาพงานวิจัยโบราณคดีสมัยไพลสโตซีนในประเทศไทย, การสำรวจสถานภาพขององค์ความรู้ปัจจุบัน, และ การวิเคราะห์ปัญหาและข้อจำกัดของการค้นคว้าวิจัย ในช่วงเวลากว่าหลายทศวรรษที่ผ่านมา การศึกษาโบราณคดีในประเทศไทยในช่วงยุคไพลสโตซีน (Pleistocene epoch) หรือยุคน้ำแข็ง (Ice age) เริ่มต้นจากการค้นพบซากบรรพชีวินของโฮโม อีเรคตัสในจีนและอินโดนีเซีย ซึ่งนำไปสู่สมมติฐานว่าประเทศไทยซึ่งเป็นดินแดนที่อยู่ระหว่างสองประเทศนี้ อาจเป็นแหล่งที่พบร่องรอยของบรรพบุรุษของมนุษย์เช่นกัน เนื่องจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นโซนร้อนที่ไม่มีน้ำแข็งและเหมาะจะเป็นที่พักพิงของผู้คนและสัตว์ในช่วงยุคน้ำแข็งปัจจุบันมีหลักฐานบ่งชี้ว่าอาจมีคนอาศัยอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่ประมาณ 800,000-600,000 ปีมาแล้ว โดยพบเครื่องมือหินกะเทาะ. พบหลักฐานซากบรรพชีวินของสายพันธุ์บรรพบุรุษคนเพียง 1 ซี่ (ฟันกรามน้อย) อายุประมาณ 180,000 ปี. ในสมัยไพลสโตซีนตอนปลาย (43,000-10,600 ปีมาแล้ว)